เมื่อพูดถึงการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เช่น การเกิดแผล รอยขีดข่วน บนผิวหนัง การดูแลรักษาแผลอย่างถูกต้องจะเข้ามามีบทบาททำให้แผลสามารถฟื้นฟูและดีขึ้นได้ไว จะแตกต่างกับการไม่ดูแลแผล ซึ่งมักทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ หากคุณสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลแผลอยากให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบทความนี้ มาเริ่มจากความเข้าใจพื้นฐานของการดูแลแผล และเคล็ดลับเพื่อให้แน่ใจว่าแผลจะเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ของคุณเท่านั้น
- การดูแลแผลที่ถูกต้อง เริ่มจากการทำให้แผลสะอาดและมีความชุ่มชื้น เพื่อให้แผลสมานตัวได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่ม โพวิโดนไอโอดีน (Povidone-Iodine) จะเข้ามาช่วยในทุกขั้นตอนของการดูแลรักษาแผล
- การทำแผลจะช่วยปกป้องแผลได้ และพยายามอย่าแตะบริเวณแผลมากจนเกินไป
- ตรวจสอบสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น ภาวะปวด บวม แดง ที่อาจเป็นมากขึ้น
ความสะอาดสำคัญต่อการรักษาบาดแผล
ก่อนที่จะเริ่มต้นทำแผลต้องล้างมือให้สะอาดเป็นอันดับแรก1 เพราะการรักษาความสะอาดของมือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ก่อนที่คุณจะรักษาแผลของตัวเองหรือทำแผลให้ผู้อื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่แผลเพิ่มเติม ซึ่งการใช้โพวิโดนไอโอดีน (Povidone-Iodine) 7.5% Skin Cleanser ในการล้างมือ ก็จะสามารถช่วยฆ่าเชื้อจุลชีพได้อย่างรวดเร็วภายใน 30 วินาที1-4,* แล้วตัวแผลเองล่ะต้องดูแลอย่างไร เราอาจจะมีความเชื่อหรือคุ้นชินกับการใช้ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) และแอลกอฮอล์ (Alcohol) แต่ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะสารดังกล่าวสามารถทำร้ายเนื้อเยื่ออ่อนของแผลได้ และทำให้กระบวนการรักษาแผลช้าลง ทั้งยังอาจทำให้รู้สึกแสบแผลเมื่อใช้ 1
การรักษาความชุ่มชื้น
การขาดความชุ่มชื้นอาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเกิดความเสียหาย สร้างความเจ็บปวดและความไม่สบายบริเวณแผล5 การใช้ครีมหรือออยท์เมนต์ เช่น Povidone-Iodine 10% ointment ก็จะช่วยให้แผลมีความชุ่มชื้นขึ้น และช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการสมานแผล5
การทำแผลหรือมีการพันรอบบาดแผลเพื่อป้องกัน
การทำแผลให้ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญ การใช้ผ้าพันแผล พลาสเตอร์ติดแผล ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันแผลจากสิ่งสกปรก และแบคทีเรียได้ ควรเลือกผ้าก๊อซหรือผ้าพันแผลที่ปราศจากเชื้อและเปลี่ยนผ้าพันแผลเป็นประจำ เพื่อให้บริเวณแผลนั้นสะอาดและไม่เกิดการหมักหมม6
อย่าแตะต้องแผล อย่ามองแผล
การต้านทานความรู้สึกที่อยากจะเช็คจะจับจะดูแผลของคุณคงเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่การสัมผัสและแกะเกาแผล อาจทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มและทำให้แผลหายช้าลง และยังทำให้เกิดรอยแผลเป็นที่เลวร้ายยิ่งขึ้น7
ปกป้องแผลจากแสงแดด
แผลก็ต้องการการป้องกันจากรังสี UV จากแสงแดดเช่นกัน ถ้าเราป้องกันแผลจากรังสี UV ได้ ก็จะช่วยป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นและการเกิดสีผิวที่ผิดปกติ6
สังเกตสัญญาณเตือนของการติดเชื้อ
หากรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติที่แผล อย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในกรณีฉุกเฉินการป้องกันดีกว่าการแก้ไข1
ด้วยการปฏิบัติตามหลักการง่ายๆ ในการดูแลแผลนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้การฟื้นตัวของแผลรวดเร็วขึ้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ถ้าครั้งหน้าคุณเกิดบาดแผลก็อย่าลืมขั้นตอนการดูแลแผลที่ถูกต้องเหล่านี้