POPULAR SEARCHES

เคยสงสัยไหมว่าการใช้ยาสีฟันทาบนบาดแผลไฟไหม้ช่วยได้จริงหรือเปล่า หรือการลอกผิวหนังที่ตายแล้วออกก็เป็นอีกความคิดที่ดีหรือไม่ ในบทความนี้เราจะสำรวจความเชื่อที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการดูแลบาดแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก และสำรวจวิธีการดูแลรักษาที่ใช้ได้จริงที่คุณสามารถทำได้ที่บ้าน

ข้อควรรู้

  • ห้ามใช้ น้ำแข็ง ยาสีฟัน ไข่ขาว หรือเนย บนแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกของคุณ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดีในการรักษา
  • ในขั้นตอนแรกของการดูแลบาดแผลที่บ้าน ให้ใช้ Povidone-Iodine Antiseptic Solution ที่สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ภายใน 30-60 วินาที* ที่ช่วยรักษาบาดแผลหรือป้องกันการติดเชื้อได้

 

การดูแลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การดูแลแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพที่บ้านจะช่วยเร่งการฟื้นฟูของแผล ลดความเจ็บของแผล และป้องกันการติดเชื้อได้ โดยทั่วไปแล้วแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกเล็กน้อยจะหายเป็นปกติภายในหนึ่งถึงสองสัปดาห์ โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็นใดๆ1 ลองมาศึกษาวิธีการดูแลบาดแผลที่คุณควรรู้ที่บ้าน รวมถึงความเชื่อที่ควรหลีกเลี่ยงในการรักษาบาดแผลไฟไหม้กัน

 

1. ใช้สารละลายฆ่าเชื้อเพื่อการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

การรักษาแผลไฟไหม้ในช่วงแรกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ2,3 มีความเชื่อที่ว่ายาสีฟันหรือไข่ขาวสามารถช่วยรักษาแผลไฟไหม้ได้ ความจริงคือยาสีฟันเป็นสิ่งที่ไม่ปราศจากเชื้อและอาจส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่นำไปสู่การติดเชื้อได้1,4 ขณะที่ไข่ขาวเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและอาจก่อให้เกิดอาการแพ้อีกด้วย1,4  การใช้ Povidone-Iodine Antiseptic Solution ซึ่งเป็นสารฆ่าเชื้อ เป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับการดูแลแผลไฟไหม้ที่คุณสามารถมีไว้ติดบ้าน โดยสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99.99% ภายใน 30-60 วินาที5,*

 

2. ยาขี้ผึ้งทาเพื่อการรักษา

มีความเชื่อว่าการทาเนยบนผิวหนังที่ถูกไฟไหม้จะช่วยรักษาได้ แต่ความจริงคือเนยจะกักเก็บความร้อนทำให้บาดแผลแย่ลง1,4 การลองใช้ยาขี้ผึ้งรูปแบบทา Antiseptic Ointment  ก็เป็นการช่วยป้องกันการติดเชื้อและเร่งการสมานของบาดแผลได้6-7

 

3. การดูแลรอยแผลเป็น

เคยได้ยินไหมว่าน้ำแข็งสามารถช่วยแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกได้ แต่น่าเสียดายที่น้ำแข็งสามารถทำให้เกิดการบาดเจ็บของแผลมากกว่าผลดี เพราะมันสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองบนแผลเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังเสียหาย และชะลอกระบวนการรักษาแผล1,4   การใช้ scar gel ก็เป็นวิธีช่วยทำให้รอยแผลเป็นดีขึ้นได้

 

*ขึ้นอยู่กับการศึกษาภายในหลอดทดลอง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหากอาการไม่ดีขึ้น

  1. Animalu CN. Burn Wound Infections Available at https://emedicine.medscape.com/ article/213595-overview. Accessed on 29th Dec 2022.
  2. Norbury W, et al. Infection in Burns. Surg Infect (Larchmt). 2016;17(2):250-5.
  3. Healthline. Home Remedies for Burns. 7 February 2023. Accessed on 4 February 2024. https://www.healthline.com/health/home-remedies-for-burns
  4. Medical News Today. Home remedies for burns: What to put on burns, and prevention. 29 November 2023. Accessed on 11 February 2024. https://www.medicalnewstoday.com/articles/319768
  5. Tiang-Zen L. Comparative trial between 10% Betadine ointment and silver sulfadiazine in the treatment of burns. Proceedings of the First Asian/Pacific Congress on Antisepsis edited by S. Se/ wyn;1388: Royal Society of Medicine Services International Congress and Symposium Series No. 129.
  6. Al-Kaisy AA, et al. Role of the antioxidant eect of vitamin e with vitamin C and topical povidone-iodine ointment in the treatment of burns. Ann Burns Fire Disasters. 2005;18(1):19-30.
  7. Tan EL, et al. Comparative in vitro evaluation of the antimicrobial activities of povidone-iodine and other commercially available antiseptics against clinically relevant pathogens. GMS Hyg Infect Control. 2021;16: Doc05